Paris, je t’aime หรือ Paris, I Love You เป็นเรื่องราวความรักที่มีต่อกรุงปารีสจากสายตาของผู้กำกับ 20 คนที่ถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องราว 18 เรื่องที่เกิดขึ้นในแต่ละเมืองย่อย ๆ ของกรุงปารีส
กรุงปารีสแบ่งออกเป็นเมืองย่อย ๆ 20 เมืองที่เรียกว่า arrondissements municipaux หรือ arrondissements หรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า municipal boroughs ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 1st arrondissement ไปจนถึง 20th arrondissement โดย arrondissement ลำดับที่ 1 คือ เมืองที่เรียกว่า Tuileries และลำดับที่ 20 คือ Père-Lachaise
ใน Paris, je t’aime ประกอบด้วยเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองย่อย ๆ เพียง 18 เมืองเท่านั้นเนื่องจากมีอยู่สองเรื่องที่ไม่สามารถเข้ากับเรื่องนี้ได้จึงถูกตัดทิ้งไป
Paris je t’aime เป็นโครงการภาพยนตร์ในแบบที่เรียกว่า Anthology Film โดยเป็นการนำเอาผู้กำกับหลาย ๆ คนซึ่งอาจจะเป็นคนในหลายรุ่นหรือรุ่นเดียวกันก็แล้วแต่มาช่วยกันทำหนังสั้นคนละหนึ่งเรื่องตามแต่ละโครงการกำหนดคอนเซ็ปต์เอาไว้ จากนั้นนำเอาเรื่องทั้งหมดมาร้อยเรียงรวมกันกลายเป็นหนังขนาดยาว โดยในเรื่องหนึ่งอาจจะประกอบด้วยหนัง 2 – 3 เรื่องไปจนถึงมากกว่า 20 เรื่องก็เป็นได้
ใน 18 เรื่องย่อยที่เกิดขึ้นในเรื่อง Paris, je t’aime นั้นเป็นมุมมองของผู้กำกับแต่ละคนเกี่ยวกับความรักที่มีต่อปารีสของพวกเขา บางเรื่องก็ดูซับซ้อนจนตีความไม่ออก บางเรื่องก็เป็นเรื่องราวความรักง่าย ๆ ตั้งแต่ความรักของหนุ่มสาว, สามีภรรยา ไปจนถึงความรักของพ่อหรือแม่ที่มีต่อลูก ไปจนถึงความรักของชายรักชาย
มีสองเรื่องที่ผมชอบมากที่สุด เรื่องหนึ่งเป็นความรักระหว่างสามีภรรยา สามีตั้งใจว่าจะบอกภรรยาว่าเขามีเมียน้อยที่รักกันมากและอยากจะขอเลิกกับเธอ แต่ในการพบกันนั้น เธอกับบอกเขาว่าเธอเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดขาว และคงจะตายในอีกไม่นาน สามีได้ยินดังนั้น ตัดสินใจบอกเลิกเมียน้อยและกลับมาดูแลภรรยาให้ใกล้ชิดที่สุด เพื่อให้ช่วงชีวิตสุดท้ายของภรรยามีความสุขให้มากที่สุด ในบ้านเล็ก ๆ ในเขตเมืองที่เรียกว่า Bastille ซึ่งเป็น arrondissements ลำดับที่ 12 ฉายให้เห็นภาพความรักของสามีภรรยา ที่บทบรรยายไทยเขียนไว้ว่า เขากลับมาเป็นคนมีความรักอีกครั้ง จริง ๆ ความรักมันก็ง่าย ๆ แบบนี้ ไม่มีอะไรซับซ้อน และพร้อมจะรื้นน้ำตาได้ง่าย ๆ
อีกเรื่องเป็นความรักของเด็กชายที่กำลังหัดจีบสาว และหนังบอกว่า เขายังมีเรื่องให้ต้องเรียนรู้อีกมากมายเกี่ยวกับความรักไปตลอดชีวิต แสงจ้า ๆ ยามสาย ๆ ถึงบ่ายฉายให้เห็นภาพการเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ ในชีวิตของเด็กชายที่ต่อไปในภายภาคหน้า เขาก็จะต้องพบกับช่วงที่ฝนตกหนัก และฤดูหนาวที่แสนจะหนาวเหน็บ แต่ท้ายสุดแล้ว ชีวิตก็จะวนกลับมาสู่วันที่มีแสงจ้า ๆ ยามบ่ายอยู่เสมอ
สำหรับผม เมื่อนึกถึงปารีส ผมนึกถึงถนน Champs-Élysées และเออร์เนส เฮมมิ่งเวย์ ที่อาศัยร้านกาแฟริมถนนในมหานครปารีสในการสร้างงานเขียนชั้นเยี่ยมมากมาย ผมนึกถึงแดดอ่อน ๆ ยามบ่ายที่ส่องผ่านกระจกเข้ามาบนโต๊ะกาแฟ ในขณะที่เฮมมิ่งเวย์กำลังจรดดินสอเขียนแต่ละประโยคออกมาอย่างแช่มช้า
ปารีส โรแมนติกเสมอมาครับ
ป.ล. อยากรู้จักหนังเรื่องนี้มากขึ้น อ่านได้ที่ Paris, je t’aime มะรุมมะตุ้มรุมรักปารีส และ Paris, je t’aime ใน Wikipedia และ IMDb รวมถึงเว็บไซท์อย่างเป็นทางการ
๔ ความคิดเห็น:
ทำไมเรื่องคนรักกัน ต้องมาบอกว่ารักเมืองปารีสด้วยล่ะ อิอิ
คิดว่าคงไม่ได้ไปดูที่โรงนะ อ่านเอาจากที่นี่แล้วกัน
พี่ชัยไปดูก้อดีแล้วล่ะ จะได้เข้าใจความรักมากขึ้นอีกหน่อย
ไปดูมาแล้วเช่นกัน
หนุกดี
ทุกคนมีเรื่องราวความรักของตัวเองให้ได้แปลกใจเล่นเสมอๆ ได้หันมาดูมุมมองความรักหลายๆรูปแบบแล้วดีนะ ฉันไปดูเรื่องนี้เพราะเธอบอกนะเนี่ย
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ
แสดงความคิดเห็น