วันอังคารที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๒

ว่าด้วยตลาดหนังสือลาว

ปีที่แล้ว ผมมีโอกาสเดินทางไปเที่ยวหลวงพระบางและเวียงจันทร์แบบรู้ตัวแค่ 2 – 3 วันก่อนวันเดินทาง ผมตัดสินใจไปเที่ยวทันทีที่มีน้องคนหนึ่งชวนผมไป เหตุผลลึก ๆ ที่ช่วยให้ผมตัดสินใจอย่างไม่รีรอคือ ลาวเป็นหนึ่งในประเทศที่ผมอยากไปเห็นสักครั้งหนึ่งในชีวิต เหมือนกับประเทศญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา, เนเธอร์แลนด์ และอีกหลาย ๆ ประเทศ

สำหรับอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ผมติดตามความเป็นไปของประเทศลาวผ่านหน้าหนังสือ, ภาพยนตร์, เพลง หรือสื่ออื่น ๆ อีกมากมาย แต่นั่นเป็นเสียงสะท้อนจากภายนอก ผมอยากรู้จริง ๆ ว่า คนลาวมองประเทศของพวกเขาอย่างไรบ้าง ผ่านสื่อประเภทต่าง ๆ ผมจึงตัดสินใจไปเที่ยวเพื่อหวังจะได้ไปซื้อหาหนังสือโดยเฉพาะหนังสือพิมพ์และนิตยสารของคนลาว

แต่เมื่อไปถึง ผมพยายามมองหาร้านหนังสือพิมพ์และร้านหนังสือตามท้องถนน โดยเฉพาะในเมืองที่เจริญสุดขีดของลาวอย่าง เวียงจันทร์และหลวงพระบาง แต่ผมกลับไม่เจอร้านหนังสือเลย สุดท้าย ผมไปได้หนังสือแนวประวัติศาสตร์จากพิพิธภัณฑ์ที่เวียงจันทร์มาแทน ซึ่งหนังสือเหล่านั้นมีราคาแพงมาก แพงในระดับที่ผมต้องตั้งคำถามว่า หรือหนังสือเป็นของหายากที่นั่น และหนังสือเหล่านั้นก็เป็นภาพสะท้อนที่มีต่อลาวในยุคสมัยเก่า ไม่ได้พูดถึงแม่หญิงลาวในปัจจุบัน ซึ่งก็ไม่สามารถตอบคำถามที่ผมสงสัยได้อย่างสมบูรณ์ แต่ผมก็ตัดสินใจซื้อมา เพราะมั่นใจว่า ผมคงจะไปหาหนังสือเหล่านี้ที่เมืองไทยหรือบนอเมซอนดอทคอมไม่ได้แน่นอน แม้แต่นิตยสารสองสามเล่มของลาวที่ผมอ่านเจอในสื่อของไทยเขียนถึงนั้น เมื่อไปถึงลาว หนังสือเหล่านั้นก็ไม่รู้ว่าไปซ่อนอยู่แห่งหนตำบลใด

ผมจึงกลับบ้านพร้อมกับหนังสือประวัติศาสตร์ลาวสองสามเล่มติดมือมา พร้อมกับคำถามที่คาใจว่า คนลาวไม่อ่านหนังสือกันเหรอ

แต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (28 มีนาคม 2552) ผมอ่านบทสัมภาษณ์ของ “ฮุ่งอะลุน แดนวิไล” ซึ่งเป็นนามปากกาของ “โอทอง อินคำซู” เจ้าของรางวัลซีไรต์ปี 2008 จากประเทศลาว โดยได้รับจากผลงานรวมเรื่องสั้นชุด “ซิ่นไหมผืนเก่า ๆ” บทสัมภาษณ์ของเขาทำให้คำถามที่คาใจหลาย ๆ คำถามจางหายไป

รางวัลซีไรต์นี้ ทุกปีจะแจกให้กับนักเขียนของประเทศในกลุ่มอาเซียนจำนวน 10 คนจาก 10 ประเทศในกลุ่ม ซึ่งของไทยเรา ปีนี้รางวัลเป็นของรวมเรื่องสั้นชุด “เราหลงลืมอะไรบางอย่าง” ของ วัชระ สัจจะสารสิน เล่มนี้ผมอ่านแล้ว เขียนดีมากจริง ๆ ครับ

กลับมาที่บทสัมภาษณ์ ฮุ่งอะลุน บอกผมว่า เขาทำงานเป็นบรรณาธิการ “วารสารวรรณศิลป์” ของกระทรวงวัฒนธรรมของลาว ซึ่งเป็นวารสารที่พูดถึงวัฒนธรรมในรูปสารคดี โดยมีเรื่องสั้น และกาพย์กลอนปนอยู่ด้วย นอกจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรมยังพิมพ์หนังสือด้วย
แต่เนื่องจากรัฐบาลลาวมีกฎหมายเกี่ยวกับการผลิตนิตยสาร โดยนิตยสารในประเทศลาวทั้งหมดเป็นของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม กำลังจะมีกฎหมายใหม่ที่เปิดโอกาสให้เอกชนสามารถทำนิตยสารได้เช่นกัน

นี่เป็นข่าวดีของผม และช่วยตอบข้อสงสัยของผมว่า จริง ๆ แล้ว ประเทศลาวมีนิตยสารบ้างเหมือนกัน และมีแน่นอน เพียงแต่ว่า ผมหามันไม่เจอเอง

นอกจากนี้ ฮุ่งอะลุน ยังบอกว่า มีองค์กรต่างประเทศที่ตั้งอยู่ในลาวพิมพ์หนังสือสำหรับเด็กออกมาด้วย โดยหนังสือสำหรับเด็กปัจจุบันขายดีกว่าหนังสือทั่วไป เพราะเยาวชนลาวกำลังตื่นตัวเรื่องการอ่านมาก

ฮุ่งอะลุน ยังบอกอีกว่า ตัวเลขการอ่านหนังสือของเด็กลาวเพิ่มขึ้นสูงมาก โดยเด็ก ๆ จะอ่านนิทาน เรื่องสั้น ยกตัวอย่างเช่น “กอไผ่พูดได้” ก็เป็นเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งที่ชนะการประกวดและถูกตีพิมพ์จำหน่าย

นอกจากหนังสือที่ลาวตีพิมพ์เองแล้ว ยังมีการส่งเสริมการซื้อหนังสือเข้าห้องสมุดด้วย ซึ่งก็เป็นช่องทางสำคัญที่ทำให้เด็กลาวได้เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ ๆ ผ่านตัวหนังสือจากต่างประเทศด้วย

แม้ทางการจะห้ามเอกชนพิมพ์หนังสือขาย แต่ก็อนุญาตให้บุคคลสามารถพิมพ์หนังสือได้ โดยต้องผ่านการตรวจสอบของรัฐบาล และสำนักพิมพ์ของรัฐบาลจะเป็นผู้พิมพ์เอง

ฮุ่งอะลุน ยังบอกว่า ปัจจุบันเด็ก ๆ ชาวลาวก็อ่านหนังสือการ์ตูนเหมือนกัน แต่จะอ่านที่เป็นภาษาไทยมากกว่า เพราะยังไม่มีคนมาลงทุนแปลเป็นภาษาลาวอย่างจริงจัง สำหรับภาษาไทยนี้ คนลาวโดยเฉพาะคนลาวรุ่นใหม่ ๆ จะฟังพูดได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ สำหรับภาษาไทยก็มีตัวอักษรไม่ต่างจากภาษาลาวเท่าไรนัก เพราะผมเองก็พอจะอ่านหนังสือภาษาลาวได้ โดยจับใจความได้เกินแปดสิบเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป หนังสือการ์ตูนภาษาไทยในประเทศลาวจึงมีการนำไปขายค่อนข้างมากเช่นกัน แต่ผมก็หาร้านหนังสือการ์ตูนนี้ไม่เจอเหมือนกัน

เมื่อปีกลาย น้องคนที่ชวนไปเที่ยวลาวก็มาเล่าถึงโดราเอมอนเวอร์ชั่นภาษาลาวที่เขาไปเจอในงานสัปดาห์หนังสือมา นี่ก็เป็นหลักฐานสำคัญที่บอกให้รู้ว่า โดราเอมอนกำลังจะไปอยู่ในหัวใจของเด็กลาวทุก ๆ คน และอีกสิบยี่สิบปีข้างหน้า หนุ่มสาวชาวลาวก็จะมานั่งนึกย้อนอดีตวัยเยาว์กับความฝันที่จะได้เดินทางไปไหนมาไหนด้วยไทม์แมชชีนและคอปเตอร์ไม้ไผ่เหมือนผมในทุกวันนี้

ถ้ามองถึงตลาดหนังสือลาวในประเทศไทยเอง ก็จะเห็นหนังสือของคนลาวตีพิมพ์อยู่เนือง ๆ อย่างหนังสือรวมเรื่องสั้นชุด “ซิ่นไหมผืนเก่า ๆ” ของ ฮุ่งอะลุน นี้ก็จัดจำหน่ายโดยสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ในประเทศไทยเช่นกัน นอกจากนี้ ก็จะมีหนังสือเล่าประสบการณ์การท่องเที่ยวลาวโดยเฉพาะเมืองเวียงจันทร์, หลวงพระบาง, ลาวใต้ และที่กำลังมาแรงคือ วังเวียง วางขายในท้องตลาดมากขึ้น ๆ

ฮุ่งอะลุน ยังบอกว่า การเป็นนักเขียนในประเทศลาวก็ไส้แห้งเหมือนในประเทศไทย แต่ปัจจุบันถ้าสังเกตกันดี ๆ ประเทศไทยเริ่มมีนักเขียนอาชีพ (แต่เป็นนักเขียนมืออาชีพหรือไม่ ไม่มีความเห็นครับ) มากขึ้นเรื่อย ๆ นักเขียนอาชีพในที่นี้หมายถึง การหาเลี้ยงชีพโดยการเขียนหนังสือเป็นหลัก ซึ่งสำหรับประเทศลาวนั้น ยังเป็นเรื่องยากอยู่ ถ้านักเขียนคนนั้นอยากเลี้ยงลูกเมีย พวกเขาต้องมีอาชีพหลักที่ไม่ใช่อาชีพนักเขียน เช่น อาจจะเป็นข้าราชการ, นักธุรกิจ, แพทย์ หรือ นักบิน การเขียนหนังสือจึงเป็นช่องทางในการระบายอารมณ์ความรู้สึก ที่อาจจะไม่สามารถพูดหรือสื่อออกมาได้โดยตรง แต่ทำได้อ้อม ๆ ผ่านการเขียนหนังสือ หรืออาจจะมองอีกนัยหนึ่งว่า เมื่อท้องเริ่มอิ่ม เราก็เริ่มมองหาสิทธิ์พื้นฐานส่วนบุคคลหลาย ๆ อย่างที่เราขาดไป เหมือนอย่างคนในกลุ่มอาชีพที่มีความมั่นคงในชีวิตแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ นักธุรกิจ หรือแม้แต่ข้าราชการเอง เมื่อถึงจุดหนึ่งก็กลับมาเขียนหนังสือ และเรียกร้องสิ่งที่ขาดหายไปในชีวิตของพวกเขา

ท่านวิเศษ แสวงศึกษา ซีไรต์ชาวลาวปี 2545 ก็เคยบอกว่า “ข้าพเจ้ามีอยู่ 2 อาชีพ อาชีพหนึ่งที่ข้าพเจ้ารักคือ การขีดการเขียน แต่ว่าอาชีพที่สองคืออาชีพที่คนอื่นบังคับให้ทำ”

ผมเองเคยคิดว่า เติ้ง เสี่ยว ผิง ที่เคยพูดวลีที่ว่า “แมวสีอะไรก็ได้ขอให้จับหนูได้” นั้น เขาอาจจะเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยอย่างลึกซึ้ง แต่เขาอาจจะคิดว่า เสรีภาพควรจะเกิดขึ้นกับคนที่อิ่มท้องแล้วเพราะเป็นเสรีภาพที่มีเหตุมีผล เขาเลยคงระบอบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ไว้ และเปิดเสรีทางเศรษฐกิจอย่างเต็มตัวก่อน เมื่อเศรษฐกิจเติบโตอย่างเต็มตัว ประชาชนเริ่มอิ่มท้อง ความคิดเรื่องการเรียกร้องสิทธิ์ส่วนบุคคลหลาย ๆ อย่างก็จะกลับมา และจะเป็นการเรียกร้องอย่างเข้าใจผ่านการเรียนรู้เศรษฐกิจเสรีแล้วนั่นเอง เพียงแต่ว่า เหล่าผู้กุมอำนาจในรัฐบาลจีนจะใจกว้างพอที่จะคืนอำนาจเหล่านั้นให้กับประชาชนได้หรือไม่

จะว่าไป คนลาวก็บ้าหนังสือรางวัลซีไรต์เหมือนคนไทย เพราะ ฮุ่งอะลุน บอกว่ายอดขายของหนังสือที่ได้รับรางวัลซีไรต์จะอยู่ในระดับแถวหน้า รางวัลซีไรต์จึงอาจจะเป็นใบเบิกทางและเป็นการเปิดโลกการอ่านให้กับคนลาวทั้งประเทศอย่างมีนัยสำคัญ

พูดถึงตลาดหนังสือของประเทศลาวแล้ว ก็ทำให้ผมนึกถึงตลาดหนังสือไทยสมัยก่อน ซึ่งผมคิดว่าคงไม่ต่างจากตลาดหนังสือของลาวเท่าไรนัก รอเพียงสังคมพร้อมจะเปิดรับความคิดเห็นที่แตกต่าง สังคมอุดมปัญญาก็คงเกิดขึ้นในสังคมลาวอย่างแน่นอน

ไม่นานนับจากนี้


ป.ล. ขอขอบคุณ บทสัมภาษณ์ “ฮุ่งอะลุน แดนวิไล ข้ามโขงมาเล่าเรื่อง... ซีไรต์ลาว 2008” ในหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม 2552 หน้า 17 – 18

๒๓ ความคิดเห็น:

Odysseus กล่าวว่า...

อยากไปอีกจริงๆ อยากไปเรียนรู้ ไปสังเกต พักผ่อน และปล่อยชีวิตไปกับความเนิบช้าอย่างมีเสน่ห์

ปล.ประเทศที่พี่สนใจเหมือนผมเป๊ะเลยทีเดียว...

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

กิกิ
เขียนอย่างกะนักวิชาการ
นี่พี่ชัยไปเที่ยว หรือว่าไปศึกษาต่อคะ
แซวเล่นนะคะ
ดรีมก็ชอบนะไปเที่ยวดูวิถีชีวติคนเนี้ยะ
แต่เราต้องไปอยู่กับคนที่นั่นอ่ะ ถึงจะเห็นเสน่ห์ที่แท้จริงของแต่ละเมือง
เฮ้อ....อยากมีเพื่อนอยู่ทุกประเทศเลยอ่ะ น่าจะดีเนอะ
-ดรีม-

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เอ่อ.. ผิดมั้ยคะ ถ้าอ่านจบแล้วแบบว่า....
ไม่ได้อยากอ่านหนังสือลาว
ไม่ได้อยากรู้ว่าลาวขายหนังสือแบบไหนบ้าง ฯลฯ

รู้แต่ว่าอยากไปเที่ยวลาวมั่งจังเล้ยยยยยยย :P

ps. ย่อหน้าสุดท้ายเนี่ย ให้กำลังใจตลาดหนังสือในลาวรึปล่าวคะ?
ทำไมก้อยอ่านแล้วกลับรู้สึกว่า... ของแบบนี้มันมีในสังคมไทยตั้งแต่เมื่อไหร่หว่า?
เอาเป็นว่าขอให้กำลังใจตลาดหนังสือในเมืองไทย
ให้ก้าวไปถึงวันนั้นไวๆ ก็แล้วกันค่ะ :D

-G O Y-

Bluesky กล่าวว่า...

ไม่น่าเชื่อว่าตามเมืองใหญ่ ๆ จะไม่มีร้านหนังสือเลย
อย่างน้อยก็นึกภาพเอาเองว่าน่าจะมีเป็นซุ้มเล็ก ๆ
ขายพวกหนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร เหมือนอย่างในตจว.ของเรา

หนังสือ ซิ่นไหมผืนเก่า ๆ นี่เนื้อเรื่องเกี่ยวกับอะไรคะ
จะว่าไปก็เป็นประเด็นที่น่าสนใจนะ เพราะน้อยคนที่จะ
ไปเดินตามหาร้านขายหนังสือที่นั่น

Mod-derN กล่าวว่า...

แล้วหนังสือไปซ่อนอยู่ที่หนายหมดอะคะ แต่อยากอ่านเรื่องสั้นจัง

orni กล่าวว่า...

ได้ฟังข่าวมาว่า ตัวเลขคนอ่านหนังสือของเมืองไทยลดลง ส่วนนึงอาจจะเกิดจากค่าหนังสือที่สูงขึ้นสวนกับการต้องดูแลงบประมาณส่วนตัวอย่างใกล้ชิดในเศรษฐกิจยุคนี้หรือเปล่า
ไม่รู้ว่างานหนังสือเค้านับคนเข้าชมงานบ้างมั้ย รู้แต่ว่าไปทีไร ก้อจะโดนเบียดตามทุกที หรือว่าทุกคนที่อ่านหนังสือในประเทศ จะมารวมอยู่ในงานนี้แล้ว และอาจจะมีแค่นี้...
ไว้วันนึงถ้ามีงานหนังสือที่ลาว พี่ก้อไปร่วมงานสิจ้ะ...

พี่นัท กล่าวว่า...

อ่านไม่จบอะ ยาว

ปอแซ่โก โอแซ่แต้ กล่าวว่า...

พี่คะ

ไหนว่าจะเขียนเรื่องวาเลนไทน์ที่ผ่านมาของพี่ไงคะ
เบี้ยวนี่หว่า

ปอแซ่โก โอแซ่แต้ กล่าวว่า...

ลุง

หยุด 6 วัน บล็อกไม่มีพัฒนาการเลยนะ
รอออออ....อ่านนนนน...อยู่

แหม...เค้าไม่ว่างมั้งให้รู้ไป ไม่งั้นจะอัพมัน 5 บล็อกเลย

ดู่หางดำ กล่าวว่า...

ผมอยากได้หนังสือลาว และอ่านประวัติศาสตร์ลาว ที่เป็นอักษรลาว มากจริงๆ
ไปเวียงจันทน์ ยังหาไม่ได้ดังใจ ได้ "สุพาสิดลาว"มาเล่มหนึ่งเล็กๆ ท่านใดมีหนังสือลาวจะแบ่งปันเป็นวิทยาทาน ผมขอขอบคุณและยินดีทดแทนค่าใช้จ่ายครับ ผมนึกออกแล้วไปคราวนี้ ผมจะให้แท็กซี่ ที่เคยรู้จักกันไปหาซื้อให้ครับ

รับแปลเอกสาร กล่าวว่า...

nice blog, thanks for sharing :)

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

I'm getting a new computer but don't want to lose my Firefox bookmarks.
Will there be a good way in order to save a record of all the URLs in
my Bookmarks and then quickly upload them
to Firefox on my new computer?.

Here is my page - Vaginal mesh lawsuits

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

oZzy moved away a few months ago, I miss his cock, and i am always hungry for sexual intercourse.

FUCK MY PUSSY!

Here is my blog post; hcg injections

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

It's genuinely very complicated in this busy life to listen news on TV, so I simply use world wide web for that reason, and obtain the newest news.

My web site :: weight loss supplements - www.xfire.com

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

Thanκs fοг ѕharіng ѕuch a niсe iԁеa,
аrticle іѕ plеаѕant, thats why i have read it fully

Τaκe a looκ at my pаge; weight loss vancouver

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

Үour current report prοvides establіshed useful tο me persоnally.

It’s quite educаtiοnаl and you're simply certainly extremely well-informed of this type. You possess popped our eyes in order to different thoughts about this particular matter with interesting and reliable content material.
Also visit my page ... Xanax

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

Your own article offeгѕ confirmed benefіciаl
to us. It’s quite educatіonаl аnd you're clearly quite experienced in this area. You get opened my own sight to be able to various views on this specific topic using interesting and reliable articles.
Also visit my webpage ; buy viagra

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

First off I want to say fantastic blog! I had a quick question in which
I'd like to ask if you don't mind. I was interested to
find out how you center yourself and clear your thoughts prior to writing.
I have had difficulty clearing my thoughts in getting my thoughts
out. I do enjoy writing but it just seems like the first 10
to 15 minutes are lost just trying to figure out how to
begin. Any recommendations or hints? Thanks!

Feel free to visit my web blog ... Novelbyall.com

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

Hi there just wanted to give you a brief heads up and let you know a few of the images aren't loading properly. I'm not sure why but I think its a linking issue.

I've tried it in two different browsers and both show the same outcome.

Here is my page; individual dental plan

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

Excellent website. Plenty of helpful information here.
I'm sending it to a few pals ans additionally sharing in delicious. And obviously, thanks in your sweat!

Check out my weblog: http://dental-Implantscost.net/procedure/

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

I'm gone to inform my little brother, that he should also visit this website on regular basis to get updated from most recent reports.

My blog post ... HTTP://www.medwide.net/

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

if you go to Vientian,there are many books and magazines in Talart Sao(Shopping mall)

Unknown กล่าวว่า...

ภามแน่ร้านหนังสีอยู่วๅงจันมีจักร้าน ชื่อะไร เพาะชีเอามาขๅนบดจบชั้น